------------------------------------------ ------------------------------------------------------------ trader: World Markets: สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำและตลาดเงินต่างประเทศ

วันพุธที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

World Markets: สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำและตลาดเงินต่างประเทศ

ตลาดหุ้นยุโรปปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (14 พ.ย.) โดยดัชนี StoxxEurope 600 ร่วงลงหนักสุดในรอบ 6 ปีเนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับวิกฤตเศรษฐกิจของยูโรโซน หลังจากสำนักงานสถิติแห่งชาติของยุโรป(ยูโรสแตท) เปิดเผยว่าผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของยูโรโซนหดตัวลงในเดือนก.ย. อันเป็นผลมาจากปัญหาหนี้สาธารณะนอกจากนี้ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากผลประกอบการที่อ่อนแอของบริษัทเอกชนหลายแห่งของยุโรป


ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 3400.02จุด ลบ 30.58 จุด ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่7101.92 จุด ลบ 67.20 จุด ดัชนี FTSE 100ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 5722.01 จุด ลบ 64.24 จุด

ตลาดหุ้นนิวยอร์กดัชนีดาวโจนส์ปิดร่วงลงอย่างหนักเมื่อคืนนี้ (14 พ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนส่วนใหญ่ยังคงวิตกกังวลว่าสหรัฐจะเผชิญกับภาวะหน้าผาการคลังซึ่งจะส่งผลให้เศรษฐกิจสหรัฐถดถอยอย่างรุนแรง นอกจากนี้ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากรายงานยอดค้าปลีกที่หดตัวลงของสหรัฐ


ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ร่วงลง 185.23 จุด หรือ 1.45% ปิดที่ 12,570.95 จุดดัชนี S&P 500 ลดลง 19.04 จุด หรือ 1.39%ปิดที่ 1,355.49 จุด และดัชนี Nasdaq ลดลง37.08 จุด หรือ 1.29% ปิดที่ 2,846.81 จุด

ตลาดหุ้นลอนดอนดัชนี FTSE 100 ปิดลบเมื่อคืนนี้(14 พ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับวิกฤตเศรษฐกิจของยูโรโซนหลังจากสำนักงานสถิติแห่งชาติของยุโรป (ยูโรสแตท) เปิดเผยว่าผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของยูโรโซนหดตัวลงในเดือนก.ย.



ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ปิดลบ 64.24 จุด หรือ 1.11%แตะที่ 5,722.01 จุด หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 5,719.61-5,786.25 จุด

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเหนือระดับ 1,730 ดอลลาร์/ออนซ์เมื่อคืนนี้(14 พ.ย.) เนื่องจากข้อมูลเศรษฐกิจที่น่าผิดหวังของสหรัฐ และเหตุการณ์ไม่สงบในตะวันออกกลางได้กระตุ้นให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย


สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น5.3 ดอลลาร์ หรือ 0.31% ปิดที่ 1,730.1 ดอลลาร์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 1720.50 -1734.10 ดอลลาร์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 39.3 เซนต์ ปิดที่ 32.88 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค.ปิดที่ 1591.60 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 5.20ดอลลาร์

สัญญาพัลลาเดียมเดือนธ.ค.ปิดที่ 641.55 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 4.95 ดอลลาร์

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้(14 พ.ย.) เพราะได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐและสถานการณ์ที่ตึงเครียดในตะวันออกกลาง


สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 94เซนต์ หรือ 1.1% ปิดที่ 86.32 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 84.93-86.65ดอลลาร์


ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนธ.ค.ที่ตลาดลอนดอนพุ่งขึ้น 1.35 ดอลลาร์ หรือ 1.2% ปิดที่ 109.61 ดอลลาร์/บาร์เรลหลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 107.80-110.35 ดอลลาร์

สกุลเงินยูโรขยับขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (14 พ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนเข้ามาช้อนซื้อเก็งกำไรสกุลเงินยูโรหลังจากที่ยูโรร่วงลงอย่างหนักในช่วงก่อนหน้านี้ภายหลังจากที่ประชุมรัฐมนตรีคลังกลุ่มยูโรกรุ๊ปไม่สามารถหาข้อสรุปในการให้ความช่วยเหลือกรีซ



ค่าเงินยูโรขยับขึ้น 0.25% แตะที่ 1.2734 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันอังคารที่ 1.2702
ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์ร่วงลง 0.17% แตะที่ 1.5842 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ1.5869ดอลลาร์สหรัฐ


ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐพุ่งขึ้น 1.06% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ 80.210 เยน จากระดับ 79.370เยน และดิ่งลง 0.26% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9451 ดอลลาร์สหรัฐจากระดับ 0.9476 ดอลลาร์สหรัฐ


ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียร่วงลง 0.56% แตะที่ 1.0372 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.0430ดอลลาร์สหรัฐ และสกุลเงินดอลลาร์ออสเตรเลียร่วงลง 0.70% แตะที่ 0.8098ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.8155 ดอลลาร์สหรัฐ

ดัชนีค่าระวางเรือBDI ปิดวานนี้ที่ 1011.00 จุด เพิ่มขึ้น 26.00 จุด, +2.64%



INFO: อินโฟเควสท์