------------------------------------------ ------------------------------------------------------------ trader: โบรกแนะเลือกซื้อ 11 หุ้นพื้นฐานแกร่ง ดัชนีแกว่งตัวในกรอบ เน้นหุ้นถูก ปันผลสูง อิงเศรษฐกิจ ในประเทศ

วันจันทร์ที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

โบรกแนะเลือกซื้อ 11 หุ้นพื้นฐานแกร่ง ดัชนีแกว่งตัวในกรอบ เน้นหุ้นถูก ปันผลสูง อิงเศรษฐกิจ ในประเทศ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เช้านี้ ณ เวลา 9.49 น.ค่าเงินบาทอยู่ที่ 30.62 บาทต่อเหรียญสหรัฐ ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียมีทั้งปรับตัวอยู่ในแดนบวกและลบ นักวิเคราะห์คาดหุ้นไทยแกว่งตัวในกรอบ เก็งกำไร 11 หุ้นเด่น ได้แก่  KTB TK ADVANC AOT JAS CENTEL MINT CPN THCOM PS BTS

บล.กสิกรไทย ระบุในบทวิเคราะห์ ดังนี้ ดัชนีแกว่งตัวหลังช่วงสั้นหมดข่าวดี แนวโน้มตลาด: ตลาดหุ้นยุโรปและสหรัฐฯ ทรงตัวถึงบวกเล็กน้อย โดยได้รับปัจจัยบวกทางจิตวิทยาจากการรายงานดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค สหรัฐฯ พ.ย.พุ่งขึ้นสู่ 84.9 จากต.ค.ที่ 82.6 ซึ่งสูงสุดนับตั้งแต่ก.ค. 50 และอยู่สูงกว่าคาดการณ์ที่ 83

อย่างไรก็ตามบรรยาการลงทุนโดยรวมในหุ้นโลกถือว่าอยู่ในช่วง “หมดข่าวดี” จึงเริ่มเห็นการทยอยขายทำกำไรในหุ้นกลุ่มต่างๆ โดยไม่จำเป็นต้องมีข่าวร้าย ทั้งนี้ หากพิจารณาตลาดหุ้นไทยวันศุกร์ที่ผ่านมา แรงขายกำไรเริ่มปรากฎในหุ้นกลาง-เล็ก ขณะที่หุ้นใหญ่ค่อนข้างทรงตัว เรามองตลาดหุ้นอยู่ในช่วงกำลังเปลี่ยนผ่านมาสู่การเก็งกำไรหุ้นใหญ่ ซึ่งอาจเห็นตลาดแกว่งตัวลงในสู่ 1280 หรือต่ำกว่าในช่วงไม่กี่สัปดาห์นี้ ในจังหวะเดียวกับความกังวลของหนี้กรีซ (รับเงินช่วยเหลืองวดต่อไปอาจล่าช้า) การเลือกตั้งสเปน (การแยกตัวของแคว้นย่อย กดดันเครดิตประเทศ) และหน้าผาการคลังของสหรัฐฯ (เจรจาปรับลดค่าใช้จ่ายที่จะเริ่มตั้งแต่ ม.ค.56) มาเป็นประเด็นกดดันตลาด อย่างไรก็ตามยังคงมุมมองว่าการปรับลงเที่ยวนี้ (downside ที่1250 ซึ่งอาจจะเกิดขึ้นหรือไม่ก็ได้) ยังเป็นโอกาสซื้อลงทุนที่ดีกลยุทธ์การลงทุน: คาด SET Index มีโอกาสถูกกดดันลงทดสอบ 1280 อีกครั้ง

การลงทุนเน้นซื้อเก็งกำไรในจังหวะตลาดปรับตัวลง และนักลงทุนระยะสั้นปรับโหมดการลงทุนมาเป็น “ขึ้นขาย-ลงซื้อ” นักลงทุนยาว หาจังหวะทยอยสะสม ความผันผวนของดัชนีค่าเงินสหรัฐฯ อาจกระทบต่อหุ้นที่ราคาแพง (PER สูง) และพึ่งพิงปัจจัยภายนอก ช่วงนี้เราจึงขอกลับมาเน้นหุ้นที่ราคาไม่แพง ปันผลสูง และเน้นการเติบโตจากในประเทศแทน (อาทิ อสังหาริมทรัพย์ เช่าซื้อ ขนส่ง) หุ้นแนะนำ KTB TK ADVANC

สำหรับนักลงทุนระยะกลาง: (นับแต่ 14 ก.ย.) น้ำหนักการลงทุนปัจจุบันของเราอยู่ที่ 60% และขอเตรียมเพิ่มขึ้นอีก แต่ในระยะสั้นให้ระมัดระวังความผันผวน ***การปรับฐาน ต.ค.-พ.ย.นี้ เราจะขอเพิ่มน้ำหนัก โดยเน้นสะสมหุ้นพลังงาน ปิโตรเคมีเดินเรือ และอิเล็กทรอนิกส์ *** ทยอยสะสม TTA SOLAR ERW AJ KCE

KGI คาดว่าตลาดหุ้นไทยวันจันทร์แกว่งตัวกรอบจำกัด นักลงทุนส่วนใหญ่จะรอดูสถานการณ์ในตลาดโลกสัปดาห์นี้กล่าวคือ i) การเปิดสภาครองเกรสของสหรัฐฯ ในวันที่ 13 พ.ย. ซึ่งแน่นอนว่าการเจรจาปัญหาการคลัง (Fiscal Cliff) จะเป็นเรื่องหลัก ทั้งนี้เมื่อคืนวันศุกร์ ปธน. บารัก โอบามา กล่าวว่าเขาจะเก็บภาษีคนรวยเพิ่มเพื่อหารายได้เข้ารัฐฯ ในขณะที่นายจอห์น โบห์เนอร์ ผู้นำ สส. ในสภาล่างที่รีพับลิกันครองเสียงข้างมาก คัดค้านการเพิ่มภาษี ซึ่งเรื่องนี้จะต้องมีการประนีประนอมกันต่อไป ii) ปัจจัยถัดมา

ได้แก่ความล่าช้าในกรีซ หลังจากเจ้าหน้าที่ระดับสูงของยุโรปยืนยันแล้วว่าการประชุม EcoFin สัปดาห์นี้ไม่สามารถอนุมัติเงินช่วยเหลือ 3.15 หมื่นล้านยูโรได้ทัน เนื่องจากรายงานของ Troika และแนวทางการจัดการหนี้ในระยะยาวยังไม่เรียบร้อย อย่างไรก็ดี KGI มองว่าเรื่องนี้จะไม่กระทบตลาดมากนัก เนื่องจากกรีซจะ rollover ตั๋วเงินคลังไปก่อนในวันที่ 16 พ.ย. จะไม่น่าจะมีปัญหาผิดนัดชำระหนี้

ด้านปัจจัยในประเทศ ผลประกอบการไตรมาส 3 จะทยอยออกหมดในสัปดาห์นี้ และเป็นไปได้ที่จะมีแรงขายรับข่าวในหุ้นที่กำไรออกมาตามที่คาด ด้านหุ้นกลุ่มสื่อสารยังเป็นกลุ่มที่ผันผวนตามข่าว โดยให้ติดตามว่าศาลปกครองจะรับคำร้องของผู้ตรวจการแผ่นดินกรณีประมูล 3G หรือไม่ และในระยะสั้นมีโอกาสที่จะเห็นหุ้นกลุ่มสื่อสารขนาดเล็กถูกขายออกมาเนื่องจากความไม่แน่นอนดังกล่าว คล้ายกับในวันศุกร์ที่ผ่านมา ส่วนปัจจัยของผู้เล่นนั้นคาดว่าทุนต่างชาติจะชะลอไม่ซื้อ/ขายมากนัก ส่วนแรงซื้อของ

สถาบันยังคงเป็นปัจจัยช่วยจำกัดทางลงของตลาดกลยุทธ์: ยังคงแนะนำให้เลี่ยงหุ้นขนาดใหญ่เช่นเดิม และเน้นซื้อหุ้นที่มีโอกาสเข้าดัชนี MSCI (AOT*) หรือดัชนี SET50 (JAS) รวมทั้งหุ้นกลุ่มท่องเที่ยวและโรงแรม (CENTEL, MINT*) และหุ้นที่แนวโน้มกำไรไตรมาสสามแข็งแกร่งเช่น CPN*, THCOM และ PS* และทิ้งท้ายด้วยการแจ้งกำไรของหุ้นบางตัวเช้าวันนี้กล่าวคือ CPF* แจ้งกำไร 2.4 พันล้านบาท ต่ำกว่าที่ตลาดคาดที่ 2.6-2.7 พันล้านบาท และ DELTA* แจ้งกำไร 1.9 พันล้านบาท สูงกว่าที่ตลาดคาดที่ 1.4-1.5 พันล้านบาท

บล.ไทยพาณิชย์ ระบุว่า คาดตลาดสัปดาห์นี้เหมือนกับสัปดาห์ก่อน กรอบ 1,285-1,300 จุด ส่วนตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ จะเริ่มโดนกดจากเหตุการณ์พายุแซนดี้ จับตาตัวเลขค้าปลีกที่คาดว่าจะร่วงแรง ส่วนตัวเลขจีนออกมาดีเกินคาด แต่เรามองว่าจะไม่สามารถชดเชยกับความกังวลในสหรัฐฯ ได้ ภาพรวมยังมองตลาดมี Downside มากกว่า Upside - สัปดาห์นี้ลุ้น MSCI ประกาศปรับพอร์ตหุ้น ตลาดคาด MAKRO BGH AOT ถูกเพิ่มเข้าคำนวณ (เราชอบ AOT มากสุด) ส่วน BTS ประกาศข่าวใหญ่กองทุนโครงสร้างพื้นฐาน SCBS ปรับเป้าขึ้นเป็น 7.80 บาท แนะนำซื้อ


INFO: http://www.kaohoon.com