------------------------------------------ ------------------------------------------------------------ trader: SVI จับตาดูหน่อย

วันอังคารที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2555

SVI จับตาดูหน่อย

SVI : บริษัท เอสวีไอ จำกัด (มหาชน)
วันนี้ 21/08/2012 ราคาอยู่ที่ 3.82 (+0.06)
 แนวโน้มไปต่ออีกหน่อย
 
ข่าวสำคัญ

วันศุกร์ที่ 17 สิงหาคม 2555 เวลา 10:42:13 น. 
สะสม SVI หลังผ่านจุดต่ำสุดแล้วใน 1H55 – แนวโน้มปี 56 มีลูกค้าเพิ่มดันรายได้โต
ผู้สื่อข่าวรายงานราคาหุ้น บริษัท เอสวีไอ จำกัด (มหาชน) หรือ SVI ณ เวลา 10.37 น. บวก 0.06 บาท หรือ 1.62% มาที่ 3.76 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่ 29.56 ล้านบาท ขณะที่ดัชนีตลาดหุ้นไทยโดยรวมบวก 0.14% ทั้งนี้ ราคาหุ้น SVI ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากระดับราคา 3.52 บาท ในวันที่ 10 ส.ค. มาแตะที่ระดับราคา 3.76 บาท ในวันนี้ ทั้งนี้ จากข้อมูล www.settrade.com ระบุว่า โบรกเกอร์ทั้ง 2 แห่ง แนะ “ซื้อ” 4 แห่ง แนะ “ถือ” โดยให้ราคาเป้าหมายเฉลี่ยที่ 3.75 บาท
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ว่า แนะนำ “ทยอยสะสม” หุ้น SVI โดยให้ราคาเหมาะสมที่ 4.80 บาท เนื่องจากคาดว่าผลประกอบการของ SVI ได้ผ่านพ้นจุดต่ำสุดไปแล้วในครึ่งแรกปี 55 และจะเห็นพัฒนาการเชิงบวกที่ชัดเจนในครึ่งหลังปี 55 หลังคำสั่งซื้อของลูกค้าเริ่มกลับเข้าสู่ระดับปกติใกล้เคียงกับระดับก่อน เกิดน้ำท่วมแล้ว โดยปัจจุบันมีกำลังการผลิตที่ 80%
ขณะที่มีมุมมองเชิงบวกต่อแนวโน้มธุรกิจในปี 56 เนื่องจากจะได้ลูกค้าใหม่เพิ่มเติมอีกไม่ต่ำกว่า 6 ราย และผลักดันให้รายได้เติบโต 19% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็น 9,963 ล้านบาท ดังนั้น คาดว่าอัตราใช้กำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้นจาก 80% ในปี 55 เป็นเกือบ 100% ในปี 56 จะส่งผลให้ Operating Profit Margin ในปีหน้า เพิ่มขึ้นเป็น 8.2% จากปี 55 ที่ 6.5% และใกล้เคียงกับปี 54 ก่อนเกิดวิกฤติน้ำท่วมที่ 8.7%
ดังนั้น คาดว่ากำไรปกติปี 56 จะขยายตัว 50.3% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็น 776 ล้านบาท จากปี 55 ที่ 517 ล้านบาท และเป็นฐานกำไรระดับสูงสุดใหม่ เทียบกับระดับสูงสุดก่อนหน้าที่ 735 ล้าบาทในปี 53 ซึ่งจะเป็นปัจจัยบวกต่อเนื่องให้กับราคาหุ้นในช่วง 12 เดือนข้างหน้า นอกจากนี้ SVI ยังเป็นหุ้นที่ให้เงินปันผลในเกณฑ์ดี โดยคาดว่าจะจ่ายเงินปันผลปี 55 –56 หุ้นละ 0.13 บาท และ 0.20 ตามลำดับ คิดเป็นผลตอบแทนจากเงินปันผลเฉลี่ยต่อปีประมาณ 4.5%
โดยยังมีความเสี่ยงจำกัดต่อปัญหาหนี้สินในยุโรป เนื่องจากสัดส่วนยอดขายให้กับประเทศในกลุ่ม EU ไม่ถึง 5% ของรายได้รวม และรายได้หลักกว่า 70% เป็นสินค้าอุตสาหกรรมที่มีความเฉพาะ และมีคุณภาพสูง โดย SVI จะไม่ทำสินค้าที่เป็น Consumer product ที่มีวงจรชีวิตสั้น และผันผวนตามเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงเร็ว ทำให้ได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจโลกจำกัด
INFO: ข่าวหุ้น-ธุรกิจ


วันพฤหัสบดีที่ 02 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา 09:33:47 น.
บล.เอเซีย พลัสแนะนำ ซื้อ SVI มองถึงเวลากลับมาของหุ้น SVI อีกครั้ง คาดกลับมาผลิตเต็มกำลังในไตรมาส 3/55 แต่ไตรมาส 4/54 จะขาดทุนหนัก โดยระบุในบทวิเคราะห์ ดังนี้

คาด 4Q54 ขาดทุนหนักจากความเสียหายน้ำท่วม
ฝ่ายวิจัยคาดผลการดำเนินงานของ SVI ในงวด 4Q54 จะขาดทุนสุทธิกว่า 2 พันล้านบาท ซึ่งเป็นผลจากโรงงาน SVI ในนิคมฯ บางกระดี่ ได้รับความเสียหายจากวิกฤติน้ำท่วมครั้งใหญ่ที่เกิดขึ้นในช่วงเดือนต.ค.54 ส่งผลให้บริษัทฯ จำเป็นต้องบันทึกค่าใช้จ่ายพิเศษจากความเสียหายของโรงงาน และเครื่องจักรสูงถึง 2 พันล้านบาท เช่นเดียวกันสถานการณ์ดังกล่าวยังทำให้ SVI ไม่สามารถผลิตสินค้าได้ตามคำสั่ง
ซื้อของลูกค้า โดยคาดว่ายอดขายรวมในงวด 4Q54 จะลดลงเหลือเพียง 30 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ราว 926 ล้านบาท) หดตัวถึง 65% qoq ขณะที่ Gross margin โดยรวมในงวด 4Q54 คาดจะปรับตัวลดลงสู่ระดับ 9.3% จาก 10.5% ในงวด 3Q54 เนื่องจากบริษัทฯ ไม่สามารถดำเนินการผลิตเชิงพาณิชย์ได้เต็มที่ส่งผลให้ต้นทุนการผลิตต่อหน่วย ปรับตัวสูงขึ้น โดยรวมแล้ว ทำให้คาดการณ์กำไรปกติจากการดำเนินงานในงวด 4Q54 เท่ากับ 29 ล้านบาท ซึ่งไม่สามารถหักล้างกับรายการขาดทุนพิเศษดังกล่าวได้ทำให้คาดการณ์ผลการ ดำเนินงานของ SVI ในปี 2554 จะพลิกเป็นขาดทุนสุทธิ 1.28 พันล้านบาทจากที่มีกำไรสุทธิ 735 ล้านบาทในปี 2553
พลิกสถานการณ์เร็วจนกลับมาผลิตเต็มที่แล้ว...เงินประกันทยอยเข้า
ฝ่ายวิจัยไม่ได้กังวลเกี่ยวกับประเด็นเรื่องค่าใช้จ่ายพิเศษที่สูงถึง 2 พันล้านบาทที่เกิดขึ้นในงวด 4Q54 เนื่องจาก SVI จะทยอยได้รับเงินประกันชดเชยครอบคลุมทั้งจำนวนกลับมาในปี 2555 ซึ่งฝ่ายวิจัยอาจมีการปรับเพิ่มประมาณการอีกครั้ง หากทราบจำนวนเงินประกัน และช่วงเวลาได้รับที่แน่นอน สำหรับแนวโน้มผลการดำเนินงานรายไตรมาสของ SVI ในปี 2555 (ไม่รวมรายการเงินประกันชดเชย) คาดว่าจะเป็นไปในทิศทางขาขึ้นตั้งแต่งวด 1Q55 ต่อเนื่องไปจนถึงงวด 3Q55 โดยอัตรากำลังการผลิตของโรงงาน SVI ในปัจจุบันสูงถึง 70% ของกำลังการผลิตก่อนช่วงเกิดวิกฤติน้ำท่วมแล้ว ส่งผลให้คาดการณ์ยอดขายรวมในงวด 1Q55 เท่ากับ 60 ล้านเหรียญฯ หรือเพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัวจากงวดก่อนหน้า
ทั้งนี้ ฝ่ายวิจัยคาดว่าบริษัทฯ จะสามารถกลับมาดำเนินการผลิตเต็มที่อีกครั้งในงวด 3Q55 ซึ่งทันกับช่วงฤดูกาลส่งออกของอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ ส่งผลให้มียอดคำสั่งซื้อเข้ามาเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ ฝ่ายวิจัยยังมีมุมมองเชิงบวกต่อกำลังการผลิตของ SVI ภายหลังจากผ่านพ้นวิกฤติน้ำท่วมครั้งใหญ่ไปแล้ว ซึ่งจะเห็นได้จากการเพิ่มฐานการผลิตไปสู่โรงงาน SVI ที่แจ้งวัฒนะ (จากเดิมที่บริษัทฯ มีแผนที่จะขายโรงงานทิ้ง) ส่งผลให้ SVI มีโรงงานเพิ่มเป็น 2 แห่ง (เดิม 1 แห่ง) ซึ่งจะทำให้บริษัทฯ สามารถเพิ่มกำลังการผลิตมากขึ้นกว่าเดิมถึง 50% ซึ่งยังไม่ได้รวมไว้ในประมาณการ และถือเป็น Upside ของผลการดำเนินงานในอนาคต
ถึงเวลากลับมาของหุ้น SVI อีกครั้ง...Top pick ของกลุ่มชิ้นส่วนฯ
ฝ่ายวิจัยยังคงคำแนะนำ ซื้อ โดยกำหนดให้มูลค่าพื้นฐานปี 2555 อิงวิธี DCF (WACC 8.99%) เท่ากับ3.84 บาท แม้อาจจะยังมีแรงกดดันของราคาหุ้นในระยะสั้นจากการรายงานผลการดำเนินงานรอบ ปี 2554 ที่เป็นขาดทุนระดับสูง จนถึงขั้นงดจ่ายเงินปันผลสำหรับทั้งปี 2554 แต่ฝ่ายวิจัยเชื่อว่าได้สะท้อนไปในราคาหุ้นค่อนข้างมากแล้ว จึงถือเป็นโอกาสที่ให้เข้าสะสมหุ้นเพื่อรับการดีดตัวของผลการดำเนินงานใน 1Q55 นอกจากนี้ ฝ่ายวิจัยคาดว่า SVI จะยังไม่สามารถจ่ายเงินปันผลสำหรับปี 2554 ได้ แต่เชื่อว่าไม่น่ากังวลมากนัก เนื่องจากบริษัทฯ จะได้รับเงินชดเชยประกันกลับมาภายในปี 2555 และคาดว่าบริษัทฯจะประกาศจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลในปี 2555 ในภายหลังจากนี้
INFO: ข่าวหุ้น-ธุรกิจ