วันจันทร์ที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

ลงทุนหุ้นไทย ช่วงตลาดปรับฐาน เพื่อโอกาสสร้างกำไร






โดยกลุ่มกลยุทธ์ผลิตภัณฑ์การลงทุน บลจ.แอสเซท พลัส จำกัด
      
       แม้ว่าตลาดหุ้นไทยในปี 2556 จะยังมีแนวโน้มเคลื่อนไหวผันผวน จากความกังวลต่างๆ อาทิ การชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก เนื่องจาก การปรับลดการใช้จ่ายภาครัฐของประเทศสหรัฐฯ รวมถึงทิศทางการแก้ไขปัญหาหนี้สาธารณะในยุโรป และทิศทางเศรษฐกิจของยุโรปที่ชะลอตัวลง แต่การลงทุนใน “หุ้น” ยังคงอยู่ในความสนใจของผู้ลงทุนอย่างต่อเนื่อง
      
       โดยในเดือน พ.ย. นี้ นักวิเคราะห์จากหลายสำนักยังคาดการณ์ว่า SET Index อาจมีการปรับฐานได้เนื่องจากปัจจัยต่าง ๆ เช่น มุมมองการเติบโตของเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวลง รวมถึงความกังวลในเรื่องข้อจำกัดการคลังในสหรัฐฯ (US fiscal cliff) โดยนักวิเคราะห์ต่าง ๆ ประเมินว่า นักลงทุนอาจมีการขายทำกำไรบางส่วนก่อนที่ดัชนีจะเคลื่อนตัวออกด้านข้าง (Sideway) ในกรอบ 1,265 - 1,320 จุด ในลักษณะสร้างฐานเพื่อรอความชัดเจนจากปัจจัยต่าง ๆ และเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้ลงทุน
      
       แม้ว่าตลาดหุ้นไทยมีแนวโน้มปรับตัวลดลง แต่บริษัทฯ ประเมินว่า ถือเป็นโอกาสที่ดีในการเข้าเลือกสะสมหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานดีในราคาที่เหมาะสม โดยประเมินระดับดัชนีที่เหมาะสมในการเข้าลงทุนที่ระดับ 1,280 จุด เนื่องจาก ผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนปี 2555 ซึ่งคาดว่าจะขยายตัวอยู่ประมาณ 20% และ 15% ในปี 2556 โดยได้รับปัจจัยสนับสนุนจากการเติบโตของการใช้จ่ายภายในประเทศ และนโยบายการลดภาษีเงินได้นิติบุคคลลงเหลือ 23% ในปี 2555 และเหลือ 20% ในปี 2556 ซึ่งทำให้กำไรของบริษัทจดทะเบียนปรับตัวเพิ่มขึ้น ประกอบกับอัตราการจ่ายเงินปันผลยังอยู่ในระดับสูงกว่า 4% และแนวโน้มการลงทุนในภูมิภาคเอเชียรวมถึงประเทศไทยอยู่ในทิศทางทีดี จากปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจที่มีเสถียรภาพ ซึ่งจะช่วยดึงดูดเม็ดเงินลงทุนจากต่างประเทศได้
      
       สำหรับผู้ลงทุนที่ต้องการลงทุนในหุ้น และมีเป้าหมายการลงทุนทีชัดเจน โดยไม่เทียบกับการปรับตัวของ SET Index ขอแนะนำให้ลงทุนในกองทุนที่เน้นลงทุนในหุ้นไทย ที่มีเป้าหมายการสร้างผลตอบแทนภายในระยะเวลาที่กำหนด เช่น กองทุนเปิดแอสเซทพลัสไพร์ม 3 (ASP-PRIME 3) ซึ่งเป็นกองทุนผสมที่มีความยืดหยุ่นในการปรับสัดส่วนตราสารหนี้และตราสารทุนได้ 0-100% โดยกองทุนมีนโยบายลงทุนในหุ้นไทย และมีเป้าหมายสร้างผลตอบแทน 9% ใน 1 ปี โดยกองทุน ASP-PRIME 3 จะเน้นลงทุนในหุ้นขนาดกลาง และขนาดเล็ก ซึ่งคาดว่าจะให้ผลตอบแทนที่ดี โดยในช่วง 6 - 12 เดือน ข้างหน้ากลุ่มธุรกิจที่บริษัทฯ ให้ความสนใจให้น้ำหนักการลงทุน คือ หุ้นกลุ่มสื่อสาร หุ้นอสังหาริมทรัพย์ และหุ้นที่มีแนวโน้มการเติบโตที่ต่อเนื่อง รวมถึงหุ้นที่ผลประกอบการจะมีการฟื้นตัว
      
       ทั้งนี้ กองทุน ASP-PRIME 3 จะเพิ่มโอกาสให้ผู้ลงทุนได้รับกระแสเงินสดใช้ระหว่างทาง ด้วยการรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติ ครั้งแรก เมื่อมูลค่าหน่วยลงทุนผ่าน 10.50 บาท และรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติทั้งหมด และเลิกกองทุน เมื่อมูลค่าหน่วยลงทุนเพิ่มขึ้นผ่าน 10.90 บาท หรือ เมื่อครบ 1 ปี แล้วแต่เหตุการณ์ใดจะเกิดขึ้นก่อน
      
       ทั้งนี้ กองทุน ASP-PRIME 3 จะเปิดเสนอขายครั้งแรก และครั้งเดียว ระหว่างวันที่ 19-28 พฤศจิกายน นี้ ผู้ลงทุนสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Asset Plus Call Center เบอร์โทรศัพท์ 02-672-1111 ได้ทุกวันทำการ


INFO: http://manager.co.th/MutualFund/ViewNews.aspx?NewsID=9550000144259