วันอาทิตย์ที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2555

ถอดรหัสตลาดหุ้น #15 รวยเรื้อรัง หันหลังให้คำว่าเจ๊ง


“ช่วงที่เรายังเรียนหนังสือไม่เก่ง ผมจะใช้วิธีลอกข้อสอบ คิดถึงสมัยเรียนหนังสือ อยากสอบให้ผ่าน ก็ต้องแอบมองข้อสอบคนอื่น แต่คุณอย่าไปลอกข้อสอบคนที่เรียนไม่เก่ง เราต้องลอกข้อสอบจากคนที่เก่งกว่า” ……. วิชัย วชิรพงษ์ (เสี่ยยักษ์) รายใหญ่ต่างยกนิ้วให้ว่าเป็น “เสือ” ในวงการหุ้นตัวจริง

ในบทนี้ อยากขอยกวาทะเซียนหุ้นทั้งหลายที่เป็นเสมือนอาจารย์หุ้นของผมและทีมงาน มาฝากทุกท่าน อันเป็นการถอดประสบการณ์ของจริงที่ท่านเหล่านั้นประสพความสำเร็จจากฝีมือ และ จากการหมั่นพัฒนา จนร่ำรวยด้วยหุ้นมาแล้ว ก่อนที่ท่านผู้อ่านจะออกไปลุยตลาดหุ้น

เสี่ยแตงโม: ไม่ซื้อดักรอ เพราะกลัวรอดักดาน หากมีสัญญาณซื้อ จะใช้สูตร 5-3-2

เริ่มจาก คุณสมเกียรติ วงศ์คุณทรัพย์ หรือ “เสี่ยแตงโม” เซียนหุ้นหาดใหญ่ จากช่างตัดผมผู้เริ่มต้นด้วยเงินลงทุน 8 หมื่นบาท และในระยะแรกเล่นหุ้นจนเหลือเงินเพียง 3 หมื่น แล้วขอเงินแม่มาเพิ่มทุนอีก 5 หมื่น จนปัจจุบันท่านได้ขึ้นแท่นรายใหญ่พันล้านแห่งวงการหุ้นไทย เจ้าของวาทะ “เล่นหุ้นให้ได้กำไรชัวร์ๆ ต้องซื้อที่ New High”

(ที่มา: เปิดตัว “เสี่ยแตงโม” เซียนหุ้น “หาดใหญ่” จาก “ช่างตัดผม” ผันสู่..นักลงทุน “พันล้าน” …… bangkokbiznews.com 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2550)

“แต่ก่อนผมมักจะเข้าไปซื้อหุ้นก่อนแนวโน้มเสมอ เพราะเราคาดว่าราคามันจะต้องผ่าน New High แน่ๆ …แต่ปรากฏหลายครั้งว่ามันไม่จริง จากบทเรียนครั้งนั้น ผมจึงไม่พูดพร่ำฮัมเพลง ขอเข้าไปซื้อที่ New High สถานเดียว…เพราะมีคติว่า ของดีต้องแพงที่สุด!!”

“ผมจะซื้อสูตร 5-3-2 จะซื้อ 3 ครั้ง ซื้อครั้งแรก 50% ถ้ามันขึ้นซื้ออีก 30% ถ้าขึ้นอีกซื้ออีก 20% แต่ถ้าซื้อแล้วมันลง จะหยุดซื้อทันที แล้วผมจะรอดู”

”ถ้าซื้อแล้วมีคนขายแล้วออเดอร์ของผมไม่สามารถทำให้ราคาหุ้นขึ้นไปได้ แสดงว่าผมเจอ (ตอ) ผู้ที่อยากขายใหญ่กว่าเรา ผมจะถอยทันที ขายทิ้งทุกราคา”

“ถ้าเห็นสัญญาณว่าราคาเริ่มอ่อนตัว ผมจะ Take Profit ทันที คือ ขายเกลี้ยงพอร์ต ผมจะกล้าถือหุ้นตัวที่กำไร และขายตัวที่ขาดทุน…กรอบนี้ผมให้ลงแค่ 5% แม้ใครจะบอกว่าหุ้นตัวนั้นดีมาก ระยะกลางดี แต่ทำไมมันลงล่ะครับ…ถ้าดีจริงมันต้องไม่ลง”

“ผมถือคติว่า…น้ำกำลังเชี่ยว อย่าเอาเรือไปขวาง จำไว้เวลาหุ้นขาลง แม้ขายขาดทุนก็ต้องขาย ต้องยอมเสีย Civic ไปหนึ่งคัน…ไม่งั้น Mercedes-Benz คุณหาย!!

เอกยุทธ อัญชัญบุตร: ช่วงหุ้นขาขึ้นผมกล้าไล่ซื้อ แต่หากลง ผมเลิก ขายทุกราคา

คุณเอกยุทธ อัญชันบุตร หรือ “จอร์จ ตัน” ประธานเครือโอเรียนเต็ลมาร์ท เซียนหุ้นพันล้าน ผู้เชี่ยวชาญตลาดการเงินระหว่างประเทศ ก็ให้ข้อคิดจากประสบการณ์ตรงที่น่าสนใจครับ

(ที่มา: ชั่วโมงเซียน: “จอร์จ ตัน” เซียนเหนือเซียน …… bangkokbiznews.com 24 กันยายน พ.ศ. 2547)

”ผมจะให้น้ำหนักกับ “วอลุ่ม” มากกว่าสัญญาณทุกอย่าง หุ้นไม่มีวอลุ่มผมไม่เล่น ผมไม่ได้ให้ความสำคัญกับเทคนิค”

“ช่วงที่หุ้นกำไรดี ราคากำลังขึ้น ผมจะไล่ราคาตลอด”

“แต่เมื่อใดที่มันเริ่มหันหัวกลับ…ผมเลิก ทุกราคาผมขายหมดจะไม่รอ และไม่เสียดายเงิน 5 สตางค์ 10 สตางค์ ทุกช่องที่มีอยู่จะโยน (ขาย) ทิ้งหมดเลย”

“ผมว่ามันเพ้อเจ้อ” หรือพวกที่ชอบซื้อหุ้น “ถัวเฉลี่ยต้นทุน”

”เล่นหุ้นขาลงซื้อถัวเฉลี่ยไม่ได้…ต้อง Cut Loss ทิ้งอย่างเดียว”

เสี่ยไฮ้ส้มตำ: ตัวไหนขึ้น ผมซื้อเต็มพอร์ตแล้วถือยาว 4-5เดือน ตัวไหนซื้อแล้วลง 2-3% ผมไปแล้ว

คุณธนกฤต เลิศผาติ หรือ ไฮ้ส้มตำ พ่อค้าส้มตำ เจ้าของร้าน “ไฮ้ ส้มตำคอนแวนต์” ผู้นำกำไร 1 แสนบาท จากการขายส้มตำ มาเป็นทุนประเดิมในการซื้อขายหุ้นเมื่อปี 2542 จนปัจจุบัน หากตลาดหุ้นดี จะซื้อขายวันละ 30-40 ล้านบาท ท่านก็มีวิธีคิดที่น่าสนใจมากครับ

(ที่มา: วาทะเด็ด…จาก “7 เซียนตัวจริง”…… bangkokbiznews.com 26 มกราคม พ.ศ. 2550)

“ทุกเย็นผมจะต้องดูกราฟว่าตัวไหนมีสัญญาณการสะสม และพื้นฐานของหุ้นเป็นยังไง เสร็จจากนั้นจึงมามองภาวะตลาดโดยรวมในช่วงนั้นว่าเอื้อต่อการขึ้นของหุ้นตัวนี้หรือไม่ ถ้าทุกอย่างเข้าล็อก จึงเริ่มเข้าไปสะสมหุ้นกับเขา ถ้ามั่นใจจะซื้อทีเดียว 70% แล้วรอ 2-3 วัน …ถ้าหุ้นไม่ขึ้น ผมจะหยุดไว้ก่อน แต่ยังไม่ขาย แต่ถ้าขึ้นก็จะซื้อเข้ามาจนเต็มพอร์ต หรือถ้าซื้อแล้วราคามันปักลงเอาแค่ 2-3% ผมก็ไปแล้ว ไม่ต้องรอให้ขาดทุนกว่านี้”

“ส่วนใหญ่จะถือหุ้นไม่นาน หากหุ้นตัวใดยังมีแนวโน้มสดใสอาจจะถือประมาณ 4-5 เดือน แต่หากเป็นหุ้นรายเล็กหรือรายใหม่จะซื้อมาแล้วขายไปมากกว่า ส่วนใหญ่จะถือเพียง 1 วันหรือไม่ก็ซื้อตอนเช้าแล้วเย็นเทขาย เนื่องจากหุ้นรายเล็กยังใหม่และยังไม่มีความแน่นอนมีความเสี่ยงสูง”

เสี่ยป๋อง: บนสวรรค์มีไม่รู้กี่ชั้น ถึงคนว่าแพงแล้ว ถ้าไปต่อผมก็กล้าซื้อ แต่เวลาลงนรกก็มีไม่รู้กี่ขุมเหมือนกัน

คุณวัชระ แก้วสว่าง หรือ เสี่ยป๋อง นักลงทุนรายใหญ่ระดับพันล้านอีกท่านหนึ่ง ที่คนในวงการต่างยอมรับว่าเป็นอาจารย์ใหญ่

(ที่มา: วาทะเด็ด…จาก “7 เซียนตัวจริง”…… bangkokbiznews.com 26 มกราคม พ.ศ. 2550)

“สำหรับผม ถ้าจะซื้อหุ้น…ต้องดูทรง (กราฟ) ด้วย แม้ราคาจะขึ้นมาแล้ว 30% ถ้ายังพอไปต่อไหว…ก็เล่น ผมถือว่า เหนือฟ้ายังมีฟ้า บนสวรรค์มีไม่รู้ตั้งกี่ชั้น แต่เวลาลงนรกก็มีไม่รู้ตั้งกี่ขุมเช่นกัน จะไม่มีคำว่าถูก ว่าแพงในตลาดหุ้น”

“ยกตัวอย่างหุ้น KK ตอนนั้นราคา 1 บาท เจ้าของหุ้นเทขายก็มีให้เห็น แต่จากนั้นไม่นาน หุ้นก็ขึ้นไปที่ 80 บาท และสามารถลงมาที่ระดับ 14 บาท ก็มีให้เห็น ของแบบนี้เราไม่สามารถฟันธงได้ว่าถูกหรือแพง”

หมอยง : ต้องเล่นหุ้นขาขึ้น หยุดเล่นหุ้นขาลง จำกัดผลขาดทุนให้ไว จาก5แสนรวยพันล้าน

“ผมชอบเล่นหมากรุก การเล่นหุ้นก็เหมือนการเดินหมาก ต้องใช้ความคิดตลอดเวลา ก็เลยตัดสินใจทิ้งอาชีพหมอฟันมาเล่นหุ้น ทั้งที่ตอนนั้นรายได้จากการเล่นหุ้นน้อยกว่ารายได้จากการทำฟัน”

“ตอนที่เริ่มสตาร์ทผมลงเงินไป 500,000 บาท ตอนนั้นเลือกหุ้นที่คิดว่ามี “ราคาถูก” ผมจะซื้อหุ้นที่ราคาตกลงมามากๆ เลือกหุ้นที่มีพี/อี เรโชต่ำ และซื้อหุ้นที่มีราคาต่ำกว่าพาร์ เพราะเราคิดว่าราคาถูก” คุณหมอเล่าประสบการณ์ให้ฟังครับว่า สิ่งที่คิดว่า “ราคาถูก” และ “ปลอดภัย” เอาเข้าจริง กลับตรงกันข้าม เล่นช่วงแรกเจ๊งมาตลอด จนเหลือเงินอยู่ 180,000 บาท ในที่สุด ได้ข้อสรุปมาว่า “ถ้ามัวแต่ยึดข้อมูลในอดีต สักวันคงหมดตัวแน่!!!”

“หุ้นยิ่งขึ้นต้องยิ่งซื้อ หุ้นยิ่งตกต้องยิ่งขาย” “จงทำตามแนวโน้มตลาด” นี่คือกฎข้อแรกที่คุณหมอเรียนรู้หลังจากขาดทุนอย่างหนัก

“ผมเห็นคนล้มตายเยอะ ทุกคนที่เจ๊งหุ้นเหมือนกัน คือ ไม่ยอม “Stop Loss” ทำให้ผมเข้าใจว่าถ้าเราจะอยู่ในวงการนี้ได้นาน เราต้องรู้จักวิธีจำกัดความเสี่ยง”

”เล่นหุ้นขาขึ้น หยุดเล่นหุ้นขาลง และต้องชิงตัดขาดทุน เสียแต่เนิ่นๆ ก่อนที่ตัวเลขขาดทุนจะบานปลาย”

”หากเราเข้าไปในวิกฤติสัก 10 ครั้ง ถ้าโดนแค่ครั้งเดียวก็หมดตัวแล้ว”

เสี่ยยักษ์ : จากเริ่มต้นหลักล้านรวยหุ้นเป็นพันล้านได้ แต่ต้องเผื่อใจขาดทุนไว้ซัก 10% แบบนี้รวยแน่

สำหรับเซียนหุ้นพันล้านท่านนี้ วิชัย วชิรพงศ์ หรือ เสี่ยยักษ์ ผมจะยกพื้นที่จากนี้ไปให้ท่านแล้วล่ะครับ ถือว่าท่านเป็นผู้ที่ถ่ายทอดวิทยายุทธ์ให้กับสังคมรายย่อยมากที่สุดท่านหนึ่งเลยล่ะ

(ที่มา: กูรูหุ้นพันล้าน…วิชัย วชิรพงศ์…… bangkokbiznews.com 13 เมษายน – 19 กรกฎาคม 2550)

“คนบ้านนอกที่มีฐานะธรรมดาๆ ยังสามารถเล่นหุ้นรวยเป็นพันล้านได้ ผมเชื่อว่าพวกคุณทุกคน ก็มีโอกาสรวยระดับร้อยล้านได้ทุกคน…อย่าเพิ่งท้อ”

“ถ้าคุณชนะครั้งใหญ่ได้สักครั้ง ชัยชนะต่อๆ มาจะเป็นของคุณ”

“มันไม่ใช่กำไรแค่ร้อยเท่า คุณมีเงิน “พันล้าน” โตมาจากเงิน “2 ล้าน” มันโตเป็นพันเท่านะ”

“หุ้นจะเป็นขาขึ้น “ราคา” และ “ปริมาณ” จะต้องเคลื่อนไปในทิศทางเดียวกัน”

“ถ้าเราเลือกหุ้นพี/อี ต่ำ พื้นฐานดี แต่ซื้อแล้วราคาไม่ขึ้น..มีแต่ลง แสดงว่าความคิดของเรา “ผิด” คุณต้องเปลี่ยน “อย่าดันทุรัง””

“ผมก็ทำตามตำราเป๊ะ ! พอ Black Monday หุ้นตกหนัก เราก็เข้าไปลุยเลย เลือกซื้อแต่หุ้นค่าพี/อี ต่ำๆ สมัยนั้นก็หุ้นแบงก์ทั้งนั้น ซื้อไปแล้วมันก็ไม่ขึ้น…หุ้นตัวอื่นขึ้น หุ้นเราก็ไม่ขึ้น”

“ประสบการณ์ขาดทุนครั้งแรก เอาเงินมาเล่น 2 ล้านกว่าบาท ขาดทุนไป 5 แสนกว่า นั่งมองคนอื่นกำไร ตัวเองขาดทุน เพราะเล่นแต่หุ้นแบงก์ค่าพี/อี ต่ำๆ สุดท้ายก็รู้ว่าวิธีนี้ใช้ไม่ได้ผล คนส่วนใหญ่เขาไม่คิดเหมือนเรา ในที่สุดก็ตัดสินใจล้างพอร์ต”

“ถ้าเราเลือกหุ้นพี/อี ต่ำ พื้นฐานดี แต่ซื้อแล้วราคาไม่ขึ้น..มีแต่ลง แสดงว่าความคิดของเรา “ผิด” คุณต้องเปลี่ยน อย่าดันทุรัง”

“คุณยังไม่มีประสบการณ์เลย คุณต้องขาดทุนก่อน ในชีวิตจริงต้องเป็นอย่างนั้น นักลงทุนมือใหม่ “ขาดทุน” ถือเป็นเรื่องปกติ”

“ถ้าวันหนึ่งคนอื่นทำงาน 8 ชั่วโมง เราต้องทำงาน 10 ชั่วโมง ต้องกลับมา “ชนะ” ให้ได้”

“เราต้องเริ่มต้นจากการยอมรับความผิดพลาดของเราเอง อย่าไปโทษคนอื่น นำกลับมาแก้ไข เชื่อผม! แล้วคุณจะเล่นหุ้นเก่งขึ้น”

“เราต้องพายเรือตามน้ำ อย่าพายเรือทวนน้ำ”

“เราต้องพยายามอ่านหลักจิตวิทยาของตลาดว่า คนอื่นเขาคิดอย่างไร..? กับหุ้นตัวที่เราจะเล่น อย่าพยายาม “คิดเอง-เออเอง” คนเดียว”

“สมมติว่า ขณะนั้น SET กำลัง “นิยม” หุ้นกลุ่มไหน เราก็ต้องจับตามองหุ้นกลุ่มนั้น เพราะการ “ฝืนกระแส” จะทำให้เรา “เสี่ยงสูง” ที่จะขาดทุน”

“การเล่นหุ้นฝืนทิศทางตลาด เล่นแล้วมันเหนื่อย !!! เหมือนการขึ้นรถผิดคัน ทำไม! รถคันนี้มันถึงไม่ออกจากท่ารถสักที เรารอแล้วรออีก คันนี้ก็ไป คันนั้นก็ไปก่อน”

“หุ้นเวลาเป็น “ขาลง” เราต้องตัดทิ้ง อย่าถือ และอย่าซื้อถัวเฉลี่ย”

“เริ่มตัดไปทีละนิ้ว ตัดไปเรื่อยๆ เหมือนนิทานตะพาบน้ำที่ผมเคยเล่าให้ฟังไง! มันเจ็บปวดที่สุด แต่คุณไม่มีทางเลือก ..ถ้าอยากรอดคุณต้องรีบทำ”

“ทุกคนจะมีจังหวะฟ้าลิขิต…ทุกคนต้องเคยได้รับโอกาสนั้น แต่คุณจะตักตวงมันได้หรือเปล่าเท่านั้นเอง”

“ทุกอย่างมันต้องมาจากพื้นฐานก่อน แต่การดูพื้นฐานอย่างเดียวถ้าไม่ใช้เทคนิเคิลช่วย…เปรียบเสมือนคุณขึ้นรถเมล์ คุณจะไปสะพานตากสิน คุณกลัวร้อนคุณก็ไปนั่งรอในรถเมล์คันที่มันสตาร์ทเครื่องเอาไว้แล้ว แต่มันไม่ออกจากท่า (รถ) สักที”

“ที่มันไม่ออกเพราะจังหวะมันผิด มันเร่งเครื่องบรื้อๆ แต่ไม่ออก คันข้างๆ ออกไปแล้วเว้ย! คันเราก็ไม่ไป นั่งรอมีแต่กระเป๋ารถขึ้นมาเขย่าตั๋ว แต่ก็ไม่ออก เราจะคิดทันทีว่า “ต้องลง” ไม่ใช่คันนี้แน่…ขึ้นผิดคัน พอเราลง เปลี่ยนคันไปขึ้นคันใหม่ คันเดิมของเราดันออก”

“วิธีการเล่นหุ้นต่อ 1 รอบ จำไว้เลยนะว่า คุณต้องเตรียม “ขาดทุน” ไว้ 10% ของพอร์ตของคุณเสมอ…ผมกล้าพูดได้เลยว่า ต่อให้เป็นเซียน เป็นโคตรเซียนแค่ไหนก็ตาม คุณมี 100 ล้าน คุณต้องเตรียมขาดทุนไว้ 10 ล้าน ไว้สำหรับ Cut Loss (ยอมขาดทุน) แน่นอนที่สุด…เชื่อผม!!


INFO: ThaiDayTrade


ถอดรหัสตลาดหุ้น #1 ทำเป็นเก่ง เจ๊งสถานเดียว
ถอดรหัสตลาดหุ้น #2 Limit Loss ไม่เป็น เงินเย็นหายเ...
ถอดรหัสตลาดหุ้น #3 ยิ่งถูกยิ่งซื้อ ยิ่งซื้อยิ่งลง
ถอดรหัสตลาดหุ้น #4 ยิ่งไม่กล้าเสี่ยง กลับยิ่งเสี่ยง
ถอดรหัสตลาดหุ้น #5 วิ่งไปตามแนวโน้ม
ถอดรหัสตลาดหุ้น #6 รู้เขารู้เรา
ถอดรหัสตลาดหุ้น #7 เกาะไปกับ Fund Flow
ถอดรหัสตลาดหุ้น #8 ขายหมูดีกว่าขายหมา น้ำลายหกดีกว่าน้ำตาตก
ถอดรหัสตลาดหุ้น #9 ย้อนรอย วัฏจักรตลาดหุ้น
ถอดรหัสตลาดหุ้น #10 กลวิธี ขึ้นขายก่อน อ่อนซื้อกลับ
ถอดรหัสตลาดหุ้น #11 กลวิธี สวนควันปืน เล่นฝืนมวลชน
ถอดรหัสตลาดหุ้น #12 กลวิธี สงครามกองโจร
ถอดรหัสตลาดหุ้น #13 กลลวง ข่าวลือ
ถอดรหัสตลาดหุ้น #14 กลโกงปั่นหุ้น
ถอดรหัสตลาดหุ้น #15 รวยเรื้อรัง หันหลังให้คำว่าเจ๊ง
ถอดรหัสตลาดหุ้น #16 วาทะรับน้อง