วันศุกร์ที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2555

ANAN : เดินหน้ากำไร



ใช้หนี้ได้หลักทรัพย์ปั้นรายได้ หนี้ต่ำหมุนเงินสดลงทุนสบาย
 
“อนันดาฯ” ยันราคาไอพีโอไม่แพง ชำระหนี้ 3,000 ล้านไถ่ถอนหลักทรัพย์จากแบงก์นำมาต่อยอดรายได้ ผสมลงทุนใหม่ สร้างกำไรระยะยาว

นายชานนท์ เรืองกฤตยา ประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ (ANAN) เปิดเผยว่า ราคาหุ้นที่เสนอขายให้ประชาชนทั่วไป (ไอพีโอ) ที่ 4.20 บาท เหมาะสมแล้ว เมื่อเทียบกับผลประกอบการของบริษัทในปี 2556-2558 ที่จะกลับมามีกำไรสุทธิอย่างต่อเนื่อง จากฐานรายได้ที่คาดว่าจะเติบโตจาก 1.22 หมื่นล้านบาทในปีหน้า เป็น 1.82 หมื่นล้านบาท ในปี 2558

ขณะเดียวกัน บริษัทยังมีโครงการลงทุนอย่างต่อเนื่องหลังจากที่ประสบความสำเร็จจากการระดมทุน โดยบริษัทมีแผนเข้าซื้อกิจการของ ADO ซึ่งเป็นกิจการร่วมค้าระหว่าง ANAN กับ TMW Ananda GmbH จำนวน 48.3% จะช่วยหนุนกำไรในปี 2556 ทันที รวมทั้งช่วยลดความเสี่ยงด้านการกระจุกตัวของรายได้ เพราะ ADO มีโครงการแนวราบทางตะวันออกของกรุงเทพฯ ถึง 6 แห่ง และมีที่ดินขนาดใหญ่ที่บางนา นอกจากนี้บริษัทยังมีแผนลงทุนในโครงการขนาดใหญ่อีก 2 แห่ง ซึ่งคาดว่าจะเห็นความชัดเจนเร็วๆ นี้

“ราคาหุ้นไอพีโอถือว่าแฟร์แล้ว เราถกเถียงกันอย่างหนักกับนักลงทุนสถาบันในประเทศและต่างประเทศ ก่อนที่จะมีการทำบุ๊กบิวด์ โดยเฉพาะกับทางบาร์เคลย์ส ซีไอเอ็มบี บล.บัวหลวง และบล.เคทีซีมิโก้ ซึ่งเป็นตัวแทนนักลงทุนสถาบันต่างประเทศและในประเทศ จนได้ข้อสรุปว่าราคาที่ 4.20 บาทเหมาะสมที่สุด และหากเทียบกับแนวโน้มผลประกอบการในปีหน้าจะเห็นว่าอัตราราคาต่อกำไรต่อหุ้น (พี/อี) ของ ANAN จะต่ำเพียง 8 เท่า” นายชานนท์ กล่าว

ทั้งนี้การนำเงินที่ได้จากการระดมทุนจำนวน 3,000 ล้านบาท ไปชำระหนี้นั้นเป็นการนำไปไถ่ถอนทรัพย์สินที่จำนองไว้กับธนาคารกรุงไทย (KTB) ซึ่งทรัพย์สินดังกล่าวเป็นโฉนดที่ดินของโครงการคอนโด AD2-Mobi ซึ่งมีมูลค่าโครงการสูงถึง 4,000 ล้านบาท เมื่อบริษัทไถ่ถอนโฉนดได้แล้วก็จะนำไปโอนให้กับลูกค้า และเริ่มรับรู้รายได้จากโครงการดังกล่าวได้ทันทีในต้นปีหน้า เนื่องจาก ณ สิ้นไตรมาส 3 บริษัทสามารถขายคอนโดให้ลูกค้าได้แล้วจำนวน 2,300 ล้านบาท คงเหลืออีก 1,700 ล้านบาท ที่จะทยอยรับรู้ในช่วงต่อไป

“การนำเงินไปชำระหนี้ นอกจากจะทำให้บริษัทรับรู้รายได้จากโครงการ Mobi แล้ว ยังทำให้อัตราหนี้สินต่อทุนของบริษัทลดลงต่ำกว่า 1 เท่าด้วย ซึ่งจะทำให้ฐานะการเงินของเราแข็งแกร่ง และมีศักย ภาพขยายธุรกิจต่อไป” นายชานนท์ กล่าว

สำหรับผลการดำเนินงานไตรมาส 3 ปีนี้ที่ขาดทุนจำนวน 314 ล้านบาท เป็นการขาดทุนทางบัญชี โดยบริษัทมีค่าความนิยมติดลบ (PPA) ที่เกิดจากการซื้อกิจการในอดีตจำนวน 1,500 ล้านบาท และได้ทยอยตัดลดในงบการเงินมาอย่างต่อเนื่องไอพีโอ, จนปัจจุบันเหลือประมาณ 200 ล้านบาท ซึ่งจะไม่ทำให้บริษัทประสบปัญหาขาดทุนอีกแล้ว

นายชานนท์ กล่าวว่า สาเหตุที่ราคาหุ้นของบริษัทหลุดจองตั้งแต่วันแรก เป็นเพราะนักลงทุนขาดความเข้าใจในทิศทางดำเนินธุรกิจของบริษัท และได้รับข้อมูลไม่เพียงพอ ซึ่งธรรมชาติของ ANAN เป็นหุ้นเติบโตสูง เหมาะกับการลงทุนระยะยาว เนื่องจากมีการลงทุนอย่างต่อเนื่อง โดยมีอัตราผลตอบแทนจากส่วนของผู้ถือหุ้น (ROE) มากกว่า 20% กำไรขั้นต้น 35% และกำไรขั้นต้นสุทธิ 17% จะช่วยเพิ่มมูลค่าหุ้นที่ถืออยู่แทนการรับเงินปันผลในแต่ละปี ซึ่งหุ้น ANAN สอดคล้องกับแนวทางการลงทุนของนักลงทุนสถาบันมากกว่า



INFO: โพสต์ทูเดย์