แม้ว่าราคาถั่วเหลืองในตลาดชิคาโกจะอ่อนตัวมาที่ 15 เหรียญ/บุชเชล หลังจากขึ้นไปทำนิวไฮในไตรมาส 3/55 ที่ 16.7 เหรียญ/บุชเชล เนื่องจากตลาดคาดการณ์ผลผลิตรอบใหม่ในบราซิล 81 ล้านตัน และอาร์เจนตินา 55 ล้านตันจะออกมาในไตรมาสนี้ ซึ่งราคาได้สะท้อนไปพอสมควรแล้ว
อย่างไรก็ตาม ราคาถั่วเหลืองขึ้นอยู่กับสภาพอากาศในอเมริกาใต้ หากสภาพอากาศไม่ดีก็จะทำให้ผลผลิตรอบใหม่นี้ลดลงและมีผลให้ราคาถั่วเหลืองปรับขึ้นต่อไป โดยราคาถั่วเหลืองในตลาดล่วงหน้าส่งมอบเดือนม.ค.56 มีส่วนต่างกับราคาปัจจุบันประมาณ 30 เซนต์/บุชเชล ซึ่งมองว่าความเป็นไปได้ที่ราคาปรับลงไม่มาก หรือไม่เกิน 30 เซนต์/บุชเชล เพราะมองว่าผลผลิตรอบใหม่อาจไม่ได้ตามคาดหมาย
ดังนั้น คาดว่าในปีนี้ TVO จะสามารถมีอัตรากำไรขั้นต้นได้ไม่ต่ำกว่า 10% จากกรอบที่คาดไว้ 8-12% และสูงกว่าปีก่อนที่อยู่ระดับ 7% จึงมั่นใจว่า กำไรสุทธิปีนี้จะสูงกว่าปีก่อนอย่างมากที่มีกำไรสุทธิ 725 ล้านบาท แต่ในงวด 9 เดือนปี 55 บริษัทมีกำไรสุทธิ 1.54 พันล้านบาท มีโอกาสทำนิวไฮ
ขณะที่รายได้รวมคาดว่าปีนี้จะเติบโต 5-10% จากปีก่อนที่มีรายได้ 2.3 หมื่นล้านบาท เนื่องจากทั้งปริมาณขายและราคาขายเพิ่มขึ้นจากปีก่อน โดยราคากากถั่วเหลืองคาดว่าจะโตจากปีก่อน 20% หรือเฉลี่ยที่ 16 บาท/กก. จากปีก่อนที่ 13-14 บาท/กก.ส่วนราคาขายน้ำมันถั่วเหลืองใกล้เคียงปีก่อนที่ลิตรละ 52-55 บาท
และคาดว่าในปี 56 รายได้รวมของบริษัทน่าจะเพิ่มขึ้น 3-5% จากปีนี้ เนื่องจากปริมาณสกัดน้ำมันถั่วเหลืองเติบโต โดยจะเน้นปริมาณขายกากถั่วเหลืองจากภาคการเลี้ยงสัตว์เติบโตต่อเนื่อง โดยคาดว่าปีหน้าจะมีปริมาณสกัดน้ำมันถั่วเหลือง มากกว่า 1.3 ล้านตัน จากปีนี้ที่ 1.2-1.3 ล้านตัน ทั้งนี้ โครงสร้างรายได้รวมของ TVO ส่วนใหญ่มาจากกากถั่วเหลือง 65% และ 35% เป็นน้ำมันถั่วเหลือง ภายใต้ชื่อ"องุ่น"