วันอาทิตย์ที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

บมจ. บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (BTS) รายงานกำไรแข็งแกร่ง และเตรียมจัดตั้งกองทุนโครงสร้างพื้นฐาน


 ประเด็นการลงทุน : นอกจาก BTS จะรายงานกำไรปกติใน 2Q55/56 อย่างแข็งแกร่งและดีกว่าคาดแล้ว เราก็ยังมีมุมมอง “บวก” ในระยะยาวต่อการประกาศเตรียมการจัดตั้งกองทุนโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่ง BTS จะนำรายได้ค่าโดยสารสุทธิของสัมปทานคงเหลือขายให้แก่กองทุนฯดังกล่าว ซึ่งแผนนี้จะเปิดทางให้ BTS มีเงินทุนสำหรับการเสนอตัวเป็นผู้ดำเนินงานรถไฟฟ้าได้อีกถึง 4 เส้นทางในอนาคต และสร้างการเติบโตได้ในระยะยาว ขณะเดียวกันการแสดงความจำนงจะถือหุ้น 1 ใน 3 ในกองทุนฯนี้ ทำให้ BTS จะยังคงได้ประโยชน์จากเงินปันผลที่จะสะท้อนกลับมาจากรายได้ค่าโดยสารอีกด้วย ขณะที่ระยะสั้น หากการจัดตั้งกองทุนฯสำเร็จ ผู้ถือหุ้นก็มีแนวโน้มจะได้รับเงินปันผลพิเศษอีกด้วย ซึ่งจะเห็นว่าผู้ถือหุ้น BTS ในปัจจุบันจะได้ประโยชน์ในหลายแง่มุม โดยระหว่างรอความคืบหน้านี้ เราปรับปรุงราคาเหมาะสมขึ้น 8% เป็น 7.57 บาท/ หุ้น เพื่อสะท้อนถึงกระแสเงินสดจำนวนมากที่ได้รับใน 3Q55/56 เราคงคำแนะนำ “ซื้อ”


มีแผนจัดตั้ง IFF แล้วขายรายได้ค่าโดยสารสุทธิในอนาคตเข้า IFF : BTS มีมติจัดตั้งกองทุนโครงสร้างพื้นฐาน (Infrastructure Fund, IFF) ขึ้น โดยจะนำรายได้ค่าโดยสารสุทธิ (Net Fare box Revenue) ที่จะได้รับในอนาคตตามอายุสัมปทานคงเหลือเกือบ 17 ปี ขายให้แก่ IFF ที่ BTS เป็นผู้จัดตั้งเอง โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างเตรียมการยื่นขออนุญาตจัดตั้งกับ กลต. ซึ่งเมื่อ IFF นี้เสนอขายให้แก่ประชาชนทั่วไป BTS มีแผนที่จะจองซื้อ IFF นี้ในสัดส่วน 1 ใน 3 และยังคงเป็นผู้เดินรถไฟฟ้าสายนี้ต่อไป โดย BTS คาดจะได้รับค่าตอบแทนจากการขายครั้งนี้ราว 5-6 หมื่นล้านบาท (หรืออาจสูงกว่า) โดยมีเงื่อนไขว่าจะต้องขายได้ไม่ต่ำกว่า 5 หมื่นล้านบาท ส่วนรายได้จากการเดินรถส่วนต่อขยาย และโฆษณาบนรถ หรือ บนสถานี จะมิได้รวมอยู่ใน IFF นี้

BTS จะเอาเงินไปทำอะไร : (1) ส่วนหนึ่งไม่ต่ำกว่า 1.6 หมื่นล้าน จะนำไปซื้อหน่วยลงทุน IFF ที่ตนเองจัดตั้งขึ้น โดยจะคงสัดส่วน 1 ใน 3 เพื่อรับผลตอบแทนในรูปเงินปันผลจากรถไฟฟ้าสายเดิมนี้ (2) อีกส่วนหนึ่งจะเป็นเงินทุนสำหรับโครงการรถไฟฟ้าที่ BTS จะเข้าร่วมในอนาคต 4 เส้น เช่น ส่วนต่อขยายสายสีเขียว 2 แห่ง เป็นต้น และ (3) หากเงินเหลือจะพิจารณาจ่ายปันผลพิเศษ

มองว่าเป็นไปได้ : เรามองว่าเป้าผลตอบแทนจากการขาย 5-6 หมื่นล้านมีความเป็นไปได้ สอดคล้องกับมูลค่าธุรกิจรถไฟฟ้า (ไม่รวมรับจ้างเดินรถบนส่วนต่อขยาย) ที่เราประเมินไว้ก่อนหน้าที่ 5.9 หมื่นล้านบาท ส่วนการลงทุนใหม่เรามองว่ามีความเป็นไปได้ที่ BTS จะได้เป็นผู้บริหารส่วนต่อขยายสายสีเขียวทั้ง 2 แห่งใหม่ เนื่องจากเป็นเส้นที่เชื่อมต่อกับเส้นเดิม BTS อยู่แล้ว ส่วนหาก BTS นำกำไรจากการขายรายได้ค่าโดยสารสุทธิครั้งนี้จ่ายปันผลทั้งหมด เงินปันผลพิเศษสูงสุดที่เป็นไปได้คือ 1.4 บาท/ หุ้น อย่างไรก็ดีต้องรอผู้บริหารพิจารณาถึงความเหมาะสมเทียบกับเงินลงทุนที่ต้องการใช้ก่อน โดยอย่างเร็วที่จะเห็นปันผลพิเศษจากประเด็น IFF นี้คือราว 1Q56/57 (เม.ย.-มิ.ย. 56)

ประตูบานใหม่เริ่มเปิด คงคำแนะนำ “ซื้อ” : แม้ว่าเรายังไม่ได้รวมประเด็น IFF นี้เข้าในประมาณการเนื่องจากยังคงต้องรอความชัดเจนหลายๆประเด็น แต่ด้วยกระแสเงินสดส่วนเพิ่มกว่า 5 พันล้านบาท จากรายการพิเศษที่เกิดขึ้นระหว่าง 3Q55/56 เราจึงปรับปรุงราคาเหมาะสมขึ้น 8% เป็น 7.57 บาท/ หุ้น อิง SOTP ซึ่งยังคงมี upside คงเหลือ 16% และประเด็นบวกใหม่รวมถึงเงินปันผลพิเศษที่รออยู่ เราคงคำแนะนำ “ซื้อ” อย่างไรก็ดีราคาหุ้นได้ปรับตัวอย่างรวดเร็ว 20% ตั้งแต่ปลายเดือน ต.ค. ที่ผ่านมา ดังนั้นอาจมีแรงขายทำกำไรสลับออกมาเป็นระยะในระยะสั้นได้


INFO: mybank-kimeng.com