วันอาทิตย์ที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2555

ตัน "ดัน" อิชิตัน เข้าตลาดหุ้นปี 57 เร็วกว่าแผน 1 ปี เหตุยอดขายพุ่ง ชี้ 4 เดือนกระฉูด 42%

"ตัน"ปลื้มยอดขายอิชิตันลิ่วเข้าเป้า ร่นเข้าตลาดหุ้นวันที่ 9 เดือน 9 ปี 57 เร็วกว่าแผนเดิม 1 ปี เผยปีแรกฟันรายได้ 1.2 พันล้าน ขึ้นอันดับ 2 รองจากโออิชิ ลั่นเป้าปีนี้ยอดขายแตะ 3 พันล้าน อานิสงส์อากาศร้อนดันยอดขาย 4 เดือนแรกกระฉูด 42%

นายตัน ภาสกรนที กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท อิชิตัน กรุ๊ป จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายชาเขียวพร้อมดื่มตราอิชิตัน เปิดเผยว่า มีแผนที่จะนำบริษัทเข้าจดทะเบียนเพื่อกระจายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในวันที่ 9 กันยายนปี 2557 หรือ 4 ปี หลังจากวางจำหน่ายชาเขียวพร้อมดื่มอิชิตันออกสู่ตลาดในช่วงกลางปีที่ผ่านมา ซึ่งเร็วกว่าเดิมที่วางไว้ว่าจะนำบริษัทเข้าจดทะเบียนได้ภายใน 5 ปี หลังจากที่ทำยอดขายได้ตามเป้าหมาย โดยในปีแรกมียอดขายรวม 1,200 ล้านบาท ล่าสุดมีส่วนแบ่งในตลาดชาเขียวพร้อมดื่ม ประมาณ 19.6% เป็นอันดับสองในตลาดรองจากโออิชิ ผู้นำอันดับ 1 ซึ่งมีส่วนแบ่งในตลาดสูงสุด 48.6% ขณะที่อันดับ 3 คือ เพียวริคุมีส่วนแบ่งการตลาด 15.1% ทั้งนี้บริษัทมีทุนจดทะเบียนรวม 600 ล้านบาท โดยให้บริษัทหลักทรัพย์เอเชียพลัส จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน

นายตันกล่าวว่า ในปีนี้บริษัทตั้งเป้ารายได้ 3,000 ล้านบาท มีเป้าหมายล้างขาดทุนสะสมของปีก่อนหน้า เพื่อให้บริษัทมีกำไรในปี 2556 และนำบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ในปี 2557 ได้ตามแผน นอกจากนี้จะใช้งบในการทำตลาดอีก 400 ล้านบาท เพื่อผลักดันให้ส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มเป็น 25% ภายในสิ้นปีนี้ ทั้งนี้งบทำตลาดดังกล่าวเพิ่มจากปีก่อนที่มีการใช้ประมาณ 200 ล้านบาท

"ในรอบ 1 ปี ถือว่าทำได้เกินเป้า จึงสามารถนำบริษัทเข้าจดทะเบียนได้ก่อนแผนเดิม และปีนี้เราตั้งเป้ารายได้ 3,000 ล้านบาท โดย 5 เดือนแรกทำได้แล้ว 1,400 ล้านบาท ถือว่าเป็นบริษัทที่โตเร็วมาก ขณะที่ตอนทำโออิชินั้นทำยอดขายได้ 3,000 ล้านบาท ในปีที่ 5 ที่ทำตลาด แต่อย่างไรก็ตามอิชิตันก็ลงทุนเรื่องการผลิตไปมาก"

นายตันกล่าวว่า ความสำเร็จของอิชิตันเกิดจากการมีโปรโมชั่นส่งเสริมการขาย สินค้าที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค ซึ่งการที่อิชิตันเข้าสู่ตลาดทำให้ตลาดชาเขียวคึกคักเพราะตลาดมีการแข่งขันเพิ่มขึ้น โดยในปีที่ผ่านมาตลาดชาเขียวโตขึ้น 20% และยังเติบโตเพิ่มขึ้นต่อเนื่องมาจนถึงปีนี้ โดย 4 เดือนเติบโตถึง 42.4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็นการเติบโตที่คาดว่าจะมากที่สุดในรอบ 4-5 ปี ผลจากการที่อิชิตันเข้ามาทำตลาด มีผู้ประกอบการรายใหม่อย่างมิเรอิ รวมทั้งมีการแข่งกันเรื่องโปรโมชั่นมากขึ้น อีกทั้งยังได้รับอานิสงส์จากอากาศร้อน ซึ่งหากการผลิตของทั้งโออิชิและอิชิตัน อยู่ในภาวะปกติไม่ได้รับผลกระทบจากอากาศร้อนคาดว่าตลาดในช่วง 4 เดือนแรกจะโตมากกว่านี้ ส่วนทั้งปีประเมินตลาดโต 30% มีมูลค่าตลาดรวมโตเพิ่มเป็น 13,000 ล้านบาท

(ที่มา:มติชนรายวัน ฉบับวันที่ 13 มิถุนายน 2555)