วันพุธที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2556
'วิชัย’ ซื้อ BTS 13 ล้านหุ้น (ข่าวหุ้น)
“วิชัย ทองแตง” โผล่ถือหุ้น BTS รวดเดียว 13 ล้านหุ้น คาดต้นทุนเฉลี่ย 9 บาท ใช้เงิน 117 ล้านบาท วงการเชื่อต้องเห็นอะไรดีๆ ใน BTS เหตุเม็ดเงินไม่ใช่น้อยๆ ด้าน “คีรี” โชว์ผลประกอบการปี 55 กำไร 2.7 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่า 22% พร้อมปันผลผู้ถือหุ้นระยะยาว
วันพฤหัสบดีที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2556
MFEC (ซื้อ - เป้าหมาย 16.30 บาท): เข้าสู่ปีที่ดี เพื่ออีกปีที่ดีกว่า
บมจ. เอ็ม เอฟ อี ซี (MFEC)
เข้าสู่ปีที่ดี เพื่ออีกปีที่ดีกว่า
ประเด็นการลงทุน : ปรับประมาณการกำไรปี 2556 – 2557 ขึ้น 24% และ 37% เป็น 293 ล้านบาท และ 379 ล้านบาท ตามลำดับ เพื่อสะท้อนความแข็งแกร่งของงาน Backlog และงานรอประมูลอีกกว่า 5,000 ล้านบาท และยังมีงานอื่นที่มีโอกาสประมูลเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมถึงความสามารถในการทำกำไรที่ดีขึ้นจากการ M&A บริษัทที่มีศักยภาพอย่างต่อเนื่อง เราประเมินกำไรเติบโตเฉลี่ยต่อปีที่ 35% CAGR (2555 – 2558) อ้างอิง PEG 0.6 เท่า ได้ราคาเป้าหมาย 16.30 บาท Upside gain 73% พร้อมผลตอบแทนจากเงินปันผลราว 4%
ปรับประมาณการกำไรขึ้น 24-37%: สิ้น 1Q56 มี Backlog อยู่ 2,500 ล้านบาท และมีงานรอประมูลอีกราว 5,000 – 6,000 ล้านบาท บริษัทคาดชนะไม่ต่ำกว่า 50% ของทั้งหมด เราปรับประมาณการรายได้ปี 2556 – 2557 ขึ้น 18% และ 21% เป็น 4,785 (Backlog รองรับ 73%) และ 5,679 ล้านบาทตามลำดับ ปรับประมาณการอัตรากำไรขั้นต้นขึ้น 15 bps และ 18 bps เป็น 22.3% และ 22.5% ตามลำดับ ปรับค่าใช้จ่าย SG&A/Sales ลง 2bps และ 62 bps ตามลำดับ เพื่อสะท้อนผลของการเกิด Synergy ในการควบรวม และบริษัทปรับเปลี่ยนวิธีการคัดเลือกพนักงานใหม่เนื่องจากในอดีตเป็นสิ่งที่สร้างความผันผวนต่อผลประกอบการของบริษัท ส่งผลให้อัตรากำไรจากการดำเนินงานเพิ่มขึ้นจากประมาณการเดิม 17 bps และ 80 bps ในปี 2556-2557 ตามลำดับ ส่งผลให้ประมาณการกำไรสุทธิปี 2556 – 2557 เพิ่มขึ้น 24% และ 37% เป็น 293 ล้านบาท และ 379 ล้านบาท ตามลำดับ
Smart Thailand โอกาสใหญ่ยังไม่รวมในประมาณการ: ผู้บริหารระบุว่าโครงการ Smart Thailand เป็นโอกาสครั้งใหญ่ของบริษัท ทำให้บริษัทก้าวเข้าสู่งานวางระบบโทรคมนาคมมากขึ้น ซึ่งได้ประโยชน์ทั้งใน เฟส 1 จากการลงทุนโครงสร้างเพื่อฐานทาง IT และ เฟส 2 การลงทุนในด้าน Software และ Application ของรัฐบาล มูลค่าโครงการราว 30,000 – 40,000 ล้านบาท คาดว่า MFEC จะได้ประโยชน์จากโครงการนี้อย่างมีนัยสำคัญ
M&A เอาของดีแต่ละที่มารวมกัน เพิ่มศักยภาพทำกำไร: MFEC ยังคงมีแผนเดินหน้าทำ M&A กับบริษัทธุรกิจที่เสริมกันซึ่งเป็นบริษัทที่มีศักยภาพที่แตกต่างไปจาก MFEC ทำให้ภาพรวมทั้งกลุ่มพัฒนาไปในทิศทางที่ดีขึ้น ทำให้ MFEC ให้บริการได้ครบวงจร โดยในปีนี้มีแผนควบรวมกับบริษัทผู้ผลิต Application อีก 1 รายซึ่งมีความโดดเด่นเรื่องบริหารขั้นตอนการทำงานที่ไม่ต้องพึ่งพาผู้เขียวชาญเพียงคนเดียวจึงมีความคล่องตัวมากขึ้นหากระบบมีปัญหา นอกจากนี้ประโยชน์จากการผนึกกำลัง (Synergy) ทำให้ทิศทางอัตรากำไรเป็นบวกมากขึ้น
หุ้นความเสี่ยงต่ำ ปันผลสูง Valuation ควรเป็นพรีเมี่ยม: บริษัทเน้นเพิ่มสัดส่วนรายได้ประจำเป็น 50% ภายใน 5 ปี จากงานบำรุงรักษาระบบ และให้เช่าระบบเป็นรายเดือน เพื่อลดความผันผวนของกำไร ส่วนงานประมูลเน้นงานที่มีอัตรากำไรสูง ตั้งเป้ากำไรเติบโตปีละไม่ต่ำกว่า 15% จึงเป็นหุ้นที่มีความเสี่ยงเรื่องความผันผวนของกำไรลดลง อีกทั้งคาดเงินปันผลปี 2556 ที่ 0.40 บาท คิดเป็นผลตอบแทนสูงที่ 4% ราคาหุ้นจึงควรถูกซื้อขายที่ระดับพรีเมี่ยมกลุ่ม เราประเมินการเติบโตของกำไรเฉลี่ย 3 ปีข้างหน้าที่ 35% CAGR (2555 – 2558) อ้างอิง PEG ที่ 0.6 เท่าได้ราคาเป้าหมายปี 2556 ที่ 14.20 บาท แต่ผลของการ Roll over ราคาเป้าหมายเป็น 2Q57 ทำให้ได้ราคาเป้าหมายที่ 16.30 บาท (เทียบเท่า PE 21 เท่า) มี Upside gain 73% ราคาหุ้นปัจจุบันยังซื้อขายที่ PER 2556 – 2557 ต่ำเพียง 14 เท่า และ 11 เท่า ตามลำดับ จึงคงคำแนะนำ ซื้อ
คาด 2Q56 เติบโตเด่น YoY ทรงตัว QoQ
กำไร 1Q56 รายงานที่ 72 ล้านบาท เติบโตถึง 430% YoY แต่แท้จริงแล้วมีการตั้งสำรองรายการงานระหว่างทำที่เป็นโครงการเก่า และหนี้สูญที่อาจต้อง Write-off ออกไปในอนาคตอยู่จำนวนหนึ่ง ด้วยความต้องการลดความผันผวนของกำไรในอนาคตจึงมีการตัดรายการดังกล่าวเป็นค่าใช้จ่ายพิเศษตั้งแต่ 4Q55 และตัดอีกจำนวนราว 25 ล้านบาท ใน 1Q56 หากไม่มีรายการดังกล่าวจะทำให้กำไรสุทธิสูงถึงราว 97 ล้านบาท
ขณะที่ 2Q56 – 3Q56 จะยังมีการตัดรายการดังกล่าวเป็นค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมอีกราวไตรมาสละ 20 ล้านบาท เราจึงคาดว่ากำไรใน 2Q – 3Q56 จะทรงตัว QoQ แต่โตเด่น YoY ที่ระดับ 75 ล้านบาท+/- และ 4Q56 จะเป็นไตรมาสที่ดีที่สุดของปีเนื่องจากมีการรับรู้รายได้งานประมูลใหม่ และไม่มีการตัดรายการค่าใช้จ่ายพิเศษอีก
ปี 2557 จะเป็นปีที่ดีมากอีกปีสำหรับ MFEC นอกเหนือจากโอกาสได้งานประมูลรัฐบาลหลายโครงการแล้ว งานประจำกับลุกค้าภาครัฐ และเอกชน เช่น TOT, CAT, AIS, DTAC, KBANK เป็นต้น ยังช่วยเสริม Backlog ได้อย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ยังเป็นปีที่ไม่มีค่าใช้จ่ายพิเศษเต็มปีด้วยเช่นกัน กอปรกับผลของความพยายามจัดการต้นทุนการจ้างพนักงาน และต้นทุนในการบริการกระบวนการทำงานของทั้งกลุ่ม MFEC จะเริ่มส่งผลชัดเจนขึ้นเราจึงคาดการณ์กำไรของ MFEC จะเติบโตต่ออีก 29% YoY เป็น 379 ล้านบาท และจะมากกว่า 400 ล้านบาทได้ในปี 2558
INFO: maybank-ke.co.th
เข้าสู่ปีที่ดี เพื่ออีกปีที่ดีกว่า
ประเด็นการลงทุน : ปรับประมาณการกำไรปี 2556 – 2557 ขึ้น 24% และ 37% เป็น 293 ล้านบาท และ 379 ล้านบาท ตามลำดับ เพื่อสะท้อนความแข็งแกร่งของงาน Backlog และงานรอประมูลอีกกว่า 5,000 ล้านบาท และยังมีงานอื่นที่มีโอกาสประมูลเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมถึงความสามารถในการทำกำไรที่ดีขึ้นจากการ M&A บริษัทที่มีศักยภาพอย่างต่อเนื่อง เราประเมินกำไรเติบโตเฉลี่ยต่อปีที่ 35% CAGR (2555 – 2558) อ้างอิง PEG 0.6 เท่า ได้ราคาเป้าหมาย 16.30 บาท Upside gain 73% พร้อมผลตอบแทนจากเงินปันผลราว 4%
ปรับประมาณการกำไรขึ้น 24-37%: สิ้น 1Q56 มี Backlog อยู่ 2,500 ล้านบาท และมีงานรอประมูลอีกราว 5,000 – 6,000 ล้านบาท บริษัทคาดชนะไม่ต่ำกว่า 50% ของทั้งหมด เราปรับประมาณการรายได้ปี 2556 – 2557 ขึ้น 18% และ 21% เป็น 4,785 (Backlog รองรับ 73%) และ 5,679 ล้านบาทตามลำดับ ปรับประมาณการอัตรากำไรขั้นต้นขึ้น 15 bps และ 18 bps เป็น 22.3% และ 22.5% ตามลำดับ ปรับค่าใช้จ่าย SG&A/Sales ลง 2bps และ 62 bps ตามลำดับ เพื่อสะท้อนผลของการเกิด Synergy ในการควบรวม และบริษัทปรับเปลี่ยนวิธีการคัดเลือกพนักงานใหม่เนื่องจากในอดีตเป็นสิ่งที่สร้างความผันผวนต่อผลประกอบการของบริษัท ส่งผลให้อัตรากำไรจากการดำเนินงานเพิ่มขึ้นจากประมาณการเดิม 17 bps และ 80 bps ในปี 2556-2557 ตามลำดับ ส่งผลให้ประมาณการกำไรสุทธิปี 2556 – 2557 เพิ่มขึ้น 24% และ 37% เป็น 293 ล้านบาท และ 379 ล้านบาท ตามลำดับ
Smart Thailand โอกาสใหญ่ยังไม่รวมในประมาณการ: ผู้บริหารระบุว่าโครงการ Smart Thailand เป็นโอกาสครั้งใหญ่ของบริษัท ทำให้บริษัทก้าวเข้าสู่งานวางระบบโทรคมนาคมมากขึ้น ซึ่งได้ประโยชน์ทั้งใน เฟส 1 จากการลงทุนโครงสร้างเพื่อฐานทาง IT และ เฟส 2 การลงทุนในด้าน Software และ Application ของรัฐบาล มูลค่าโครงการราว 30,000 – 40,000 ล้านบาท คาดว่า MFEC จะได้ประโยชน์จากโครงการนี้อย่างมีนัยสำคัญ
M&A เอาของดีแต่ละที่มารวมกัน เพิ่มศักยภาพทำกำไร: MFEC ยังคงมีแผนเดินหน้าทำ M&A กับบริษัทธุรกิจที่เสริมกันซึ่งเป็นบริษัทที่มีศักยภาพที่แตกต่างไปจาก MFEC ทำให้ภาพรวมทั้งกลุ่มพัฒนาไปในทิศทางที่ดีขึ้น ทำให้ MFEC ให้บริการได้ครบวงจร โดยในปีนี้มีแผนควบรวมกับบริษัทผู้ผลิต Application อีก 1 รายซึ่งมีความโดดเด่นเรื่องบริหารขั้นตอนการทำงานที่ไม่ต้องพึ่งพาผู้เขียวชาญเพียงคนเดียวจึงมีความคล่องตัวมากขึ้นหากระบบมีปัญหา นอกจากนี้ประโยชน์จากการผนึกกำลัง (Synergy) ทำให้ทิศทางอัตรากำไรเป็นบวกมากขึ้น
หุ้นความเสี่ยงต่ำ ปันผลสูง Valuation ควรเป็นพรีเมี่ยม: บริษัทเน้นเพิ่มสัดส่วนรายได้ประจำเป็น 50% ภายใน 5 ปี จากงานบำรุงรักษาระบบ และให้เช่าระบบเป็นรายเดือน เพื่อลดความผันผวนของกำไร ส่วนงานประมูลเน้นงานที่มีอัตรากำไรสูง ตั้งเป้ากำไรเติบโตปีละไม่ต่ำกว่า 15% จึงเป็นหุ้นที่มีความเสี่ยงเรื่องความผันผวนของกำไรลดลง อีกทั้งคาดเงินปันผลปี 2556 ที่ 0.40 บาท คิดเป็นผลตอบแทนสูงที่ 4% ราคาหุ้นจึงควรถูกซื้อขายที่ระดับพรีเมี่ยมกลุ่ม เราประเมินการเติบโตของกำไรเฉลี่ย 3 ปีข้างหน้าที่ 35% CAGR (2555 – 2558) อ้างอิง PEG ที่ 0.6 เท่าได้ราคาเป้าหมายปี 2556 ที่ 14.20 บาท แต่ผลของการ Roll over ราคาเป้าหมายเป็น 2Q57 ทำให้ได้ราคาเป้าหมายที่ 16.30 บาท (เทียบเท่า PE 21 เท่า) มี Upside gain 73% ราคาหุ้นปัจจุบันยังซื้อขายที่ PER 2556 – 2557 ต่ำเพียง 14 เท่า และ 11 เท่า ตามลำดับ จึงคงคำแนะนำ ซื้อ
คาด 2Q56 เติบโตเด่น YoY ทรงตัว QoQ
กำไร 1Q56 รายงานที่ 72 ล้านบาท เติบโตถึง 430% YoY แต่แท้จริงแล้วมีการตั้งสำรองรายการงานระหว่างทำที่เป็นโครงการเก่า และหนี้สูญที่อาจต้อง Write-off ออกไปในอนาคตอยู่จำนวนหนึ่ง ด้วยความต้องการลดความผันผวนของกำไรในอนาคตจึงมีการตัดรายการดังกล่าวเป็นค่าใช้จ่ายพิเศษตั้งแต่ 4Q55 และตัดอีกจำนวนราว 25 ล้านบาท ใน 1Q56 หากไม่มีรายการดังกล่าวจะทำให้กำไรสุทธิสูงถึงราว 97 ล้านบาท
ขณะที่ 2Q56 – 3Q56 จะยังมีการตัดรายการดังกล่าวเป็นค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมอีกราวไตรมาสละ 20 ล้านบาท เราจึงคาดว่ากำไรใน 2Q – 3Q56 จะทรงตัว QoQ แต่โตเด่น YoY ที่ระดับ 75 ล้านบาท+/- และ 4Q56 จะเป็นไตรมาสที่ดีที่สุดของปีเนื่องจากมีการรับรู้รายได้งานประมูลใหม่ และไม่มีการตัดรายการค่าใช้จ่ายพิเศษอีก
ปี 2557 จะเป็นปีที่ดีมากอีกปีสำหรับ MFEC นอกเหนือจากโอกาสได้งานประมูลรัฐบาลหลายโครงการแล้ว งานประจำกับลุกค้าภาครัฐ และเอกชน เช่น TOT, CAT, AIS, DTAC, KBANK เป็นต้น ยังช่วยเสริม Backlog ได้อย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ยังเป็นปีที่ไม่มีค่าใช้จ่ายพิเศษเต็มปีด้วยเช่นกัน กอปรกับผลของความพยายามจัดการต้นทุนการจ้างพนักงาน และต้นทุนในการบริการกระบวนการทำงานของทั้งกลุ่ม MFEC จะเริ่มส่งผลชัดเจนขึ้นเราจึงคาดการณ์กำไรของ MFEC จะเติบโตต่ออีก 29% YoY เป็น 379 ล้านบาท และจะมากกว่า 400 ล้านบาทได้ในปี 2558
INFO: maybank-ke.co.th